พื้นสังเคราะห์เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับบ้านและอาคารพาณิชย์ เพราะรวมคุณสมบัติที่ช่วยให้ใช้งานได้จริงในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย อย่างไรก็ดี การรักษาคุณสมบัติสำคัญอย่างการกันน้ำ ความทนทาน และการลดเสียงรบกวน จำเป็นต้องมีการดูแลตั้งแต่การเลือกชนิดวัสดุ การติดตั้ง ไปจนถึงการบำรุงรักษาอย่างเป็นระบบ บทความนี้เสนอข้อแนะนำเชิงปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อให้พื้นคงสภาพดีและใช้งานได้นานขึ้น

วิธีดูแลคุณสมบัติกันน้ำ

การเลือกพื้นที่มีคุณสมบัติการกันน้ำเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่การป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายยังขึ้นกับการใช้งานประจำวัน เมื่อน้ำหกควรเช็ดให้แห้งทันที หลีกเลี่ยงการปล่อยให้น้ำขังเป็นเวลานาน ตรวจสอบรอยต่อและขอบผนังเป็นประจำ หากพบรอยแยกหรือรั่วให้ซ่อมด้วยวัสดุอุดหรือซีลแลนท์ที่ผู้ผลิตแนะนำ การติดตั้งขอบฉากและการปิดรอยต่ออย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงจากความชื้นระยะยาวได้มาก

ทำอย่างไรให้พื้นทนทานและกันรอยขีดข่วน

ความทนทานของพื้นสังเคราะห์ขึ้นกับชั้นผิวและวัสดุที่ใช้เลือกชนิดที่มีชั้นป้องกันผิวหนาพอสมควรเพื่อรับการสัญจรที่หนัก การวางแผนจัดวางเฟอร์นิเจอร์โดยใช้แผ่นรองใต้ขาและการหลีกเลี่ยงการลากของหนักเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ลดความเสียหายได้ หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุขัดผิวรุนแรงหรือสารเคมีที่กัดกร่อน และเลือกสีหรือลายที่ช่วยพรางรอยเล็ก ๆ เพื่อรักษารูปลักษณ์ในระยะยาว

การติดตั้งสำหรับที่พักและพื้นที่พาณิชย์ให้เหมาะสม

การติดตั้งที่ถูกต้องช่วยให้พื้นทำงานได้ตามคุณสมบัติ ควรเตรียมพื้นรองรับให้เรียบและแห้งก่อนการติดตั้ง พื้นที่ที่พักอาศัยมักใช้การติดตั้งแบบลอยตัวซึ่งสะดวกและซ่อมแซมง่าย ส่วนพื้นที่พาณิชย์ที่มีการสัญจรหนาแน่นมักต้องติดตั้งด้วยกาวและมีการตรวจสอบระบบรองรับความแข็งแรง ควรเลือกผู้ติดตั้งที่มีประสบการณ์และรับประกันงานติดตั้งเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

การบำรุงรักษาและการทำความสะอาดแบบง่าย

พื้นสังเคราะห์มีข้อดีคือดูแลได้ไม่ยาก ใช้อุปกรณ์เช็ดถูที่ไม่ขูดพื้นและน้ำยาที่ไม่กัดกร่อน ทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อลดฝุ่นและสิ่งสกปรก การทำความสะอาดเชิงลึกเป็นครั้งคราวช่วยขจัดคราบที่ฝังแน่นและคืนความเงางาม ตรวจเช็คขอบรอยต่อและการยึดติดเป็นระยะ หากมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยสามารถใช้น้ำยาทาหรือวิธีซ่อมเฉพาะจุดตามคำแนะนำของผู้ผลิต

การออกแบบและการควบคุมเสียงภายในอาคารรวมถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การเลือกโทนสีและลายของพื้นมีผลต่อบรรยากาศภายในห้อง พื้นสังเคราะห์สามารถเลียนแบบไม้หรือหินได้และมีตัวเลือกชั้นรองเพื่อลดการสะท้อนเสียง เหมาะสำหรับอพาร์ตเมนต์และสำนักงานที่ต้องการความเงียบ ควรเลือกวัสดุที่มีการรับรองการปล่อยสารระเหยต่ำหากให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชั้นรองและแผ่นยางรองสามารถช่วยเพิ่มความสบายเมื่อเดินและลดเสียงรบกวนได้

---

ชนิดสินค้า/บริการ	ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย	ประมาณราคาต่อ ตร.ฟ.
กระเบื้องไวนิลแบบหรู (LVT) – Armstrong	Armstrong Flooring	ประมาณ 70–175 บาท ต่อ ตร.ฟ.
กระเบื้องไวนิล (LVT) – Tarkett	Tarkett	ประมาณ 105–210 บาท ต่อ ตร.ฟ.
กระเบื้องไวนิล Floorte – Shaw	Shaw Floors	ประมาณ 90–210 บาท ต่อ ตร.ฟ.
กระเบื้องไวนิล (LVT) – Mohawk	Mohawk Industries	ประมาณ 90–195 บาท ต่อ ตร.ฟ.
ไวนิลหลายชั้น (Heterogeneous) – Gerflor	Gerflor	ประมาณ 105–280 บาท ต่อ ตร.ฟ.

---

ราคาหรือประมาณการที่กล่าวถึงในตารางเป็นการประมาณจากแหล่งข้อมูลทั่วไปและอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นกับสถานที่ติดตั้ง ค่าแรง วัสดุเสริม และช่วงเวลาที่สั่งซื้อ ควรตรวจสอบราคาและขอใบเสนอราคาจากผู้จัดจำหน่ายหรือผู้รับเหมาท้องถิ่นก่อนตัดสินใจทางการเงิน

แนวทางงบประมาณและการประหยัด

เมื่อต้องวางแผนงบประมาณควรคำนึงทั้งค่าวัสดุ ค่าแรงติดตั้ง อุปกรณ์เสริม เช่น แผ่นรองพื้น ซีลแลนท์ และค่าการเตรียมพื้น การเลือกวัสดุที่มีคุณภาพเหมาะสมกับการใช้งานอาจมีต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าแต่ลดค่าใช้จ่ายการซ่อมในระยะยาวได้ การเปรียบเทียบข้อเสนอจากผู้จำหน่ายหลายรายและการพิจารณาการรับประกันจะช่วยให้ได้ความคุ้มค่าที่ดีกว่าในภาพรวม

สรุป พื้นสังเคราะห์จะคงความสวยงามและใช้งานได้ยาวนานเมื่อเริ่มจากการเลือกวัสดุที่เหมาะสม ติดตั้งด้วยวิธีที่ถูกต้อง และดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันความชื้น การลดรอยขีดข่วน การควบคุมเสียง และการวางแผนงบประมาณเพื่อการใช้งานที่คุ้มค่าในระยะยาว